มาแล้ว ระบบแบ่งรายได้ให้เจ้าของคลิปบน เฟซบุ๊ค ! ตามรอย Youtube ในไทย เวิร์คพอยท์, วู้ดดี้ เริ่มลองแล้ว

ที่ผ่านมา นักทำคลิปสมัครเล่น หรือ “Youtuber” หลาย ๆ คนทุ่มเทตั้งใจส่งคลิปขึ้น Youtube มากกว่า Facebook หรือที่อื่น ๆ เพราะเหตุผลว่ายูทูบมีระบบแบ่งรายได้จากยอดวิว คือถ้ามีผู้ชมมากพอ ก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ โดยไม่ต้องไปหาสปอนเซอร์เอง

ส่วนเฟซบุ๊กก็กลายเป็นแหล่งรวมของคลิปขำ ๆ หรือไลฟ์ส่วนตัวแบบสบาย ๆ ซะส่วนใหญ่ เพราะยังไม่มีระบบแบ่งรายได้ให้เจ้าของคลิป ในระยะหลังที่รายการในประเทศไทยนำเอาคลิปที่ออกอากาศไปแล้วมาโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก เพื่อสร้าง Engagement เพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งทำ Facebook Live เพื่อให้ผู้ชมมีส่วนร่วมถามคำถาม แสดงความคิดเห็น รวมไปถึงกดแชร์เพื่อเผยแพร่คอนเทนท์ให้กว้างมากขึ้นในโลกออนไลน์

แต่ล่าสุด Youtuber ทั้งหลาย ควรเตรียมขยายที่นับตังค์ไปยัง Facebook ด้วย …เพราะเว็บไซต์ Recode รายงานข่าวที่อ้างว่าเชื่อถือได้ ว่า Facebook ใกล้จะเปิดตัวระบบโฆษณาที่แบ่งรายได้ให้เจ้าของคลิปด้วยเช่นกัน! จากสถิติของเฟซบุ๊กระบุว่า ในปี 2016 มีผู้ชมวิดีโอผ่านช่องทางของพวกเขารวมแล้วทั่วโลกใช้เวลามากถึง 100 ล้านชั่วโมงต่อวัน และทางเฟซบุ๊กก็ทดลองระบบโฆษณานี้มานานตั้งแต่ปี 2015 แล้ว และชัดเจนมาขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปลายปี 2016

โดยรายการประเทศไทย เช่น รายการของ Woody’s World ก็ได้มีการทดลองโฆษณาในส่วนของ Facebook Live มาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการได้รับชมโฆษณาระหว่างออกกอากาศในรายการ The Mask Singer ของเวิร์คพอยท์ให้เห็นกันแล้ว ขณะที่ในต่างประเทศคอนเทนท์วิดีโอจาก Tasty เพจสอนทำอาหารในเครือ BuzzFeed เริ่มต้นทดลองระบบโฆษณาในคอนเทนท์วิดีโอแล้ว

ข่าวแจ้งว่าทางเฟซบุ๊กจะหัก 45% จากรายได้โฆษณาที่ขึ้นในคลิปนั้น ส่วนที่เหลือ 55% ให้ผู้โพสต์ไป ซึ่งก็เท่ากับระบบที่ YouTube ให้อยู่

 

 

ส่วนรูปแบบโฆษณานั้นจะแทรกอยู่ระหว่างดูคลิปกันเลย โดยเรียกว่าเป็นโฆษณาขัดจังหวะแบบ “mid-roll” โดยจะมาหลังดูคลิปไปแล้ว 20 วินาทีขึ้นไป ซึ่งคลิปต้องยาวอย่างน้อย 90 วินาที ทางระบบถึงจะป้อนโฆษณาให้ตัวโฆษณานั้น ๆ จะยาวไม่เกิน 15 วินาที และจะอยู่กับคลิปเท่านั้นก่อน

งานนี้ถือเป็นการขยับก้าวสำคัญของเฟซบุ๊กที่จะไปท้าชิงความเป็นเจ้าแห่งแหล่งวิดิโอคลิปโลกจากแชมป์อย่างยูทูบ ซึ่งที่ผ่านมาเหมือนเฟซบุ๊กจะไล่หลังมาตลอด ขึ้นนำบ้างก็แค่เวที Live แต่คุณภาพเนื้อหาในคลิปทั่วไปยังเป็นรองอยู่มาก ก็เพราะจุดอ่อนเรื่องแรงจูงใจของผู้โพสต์นั่นเอง ถ้าหากว่าจะทำให้โซเชี่ยลมีเดียกลายเป็นแพล็ตฟอร์มด้านวิดีโออย่างแท้จริงต้องมีทั้ง ในส่วนของผู้สร้างสรรค์คอนเทนท์ (Creator) เพื่อทำให้วิดีโอที่ถูกเผยแพร่มีคุณภาพ เหมาะสมกับช่องทางเฟซบุ๊ก, ผู้ลงโฆษณา(Advertisier) และผู้ชม (Viewer)

สำหรับการออกอากาศทั้งนำเอาคอนเทนท์มาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก หรือการทำไลฟ์ แหล่งข่าวในวงการมีเดียเอเยนซี่ของประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ในวงการกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าหากว่าผู้ชมสนใจ มีผู้ชมอย่างจริงจังก็พร้อมจะพิจารณาการใช้เม็ดเงินทางนี้ แต่ขอให้มีรูปแบบการโฆษณาที่ชัดเจน  

 

credit:  www.recode.net/2017/1/9/14211466/facebook-video-advertising-midroll
image: marketingland.com/facebook-defends-its-3-second-video-view-standard-137823
แปลและเรียบเรียงโดย: Somkid Anektaweepon
ที่มา http://www.brandbuffet.in.th